รู้จักประเภทของ Influencer ที่ไม่ใช่แค่ 1 แต่มีถึง 5 ! พาทุกคนไปรู้จักกับ Influencer Marketing หรือ การทำการตลาดผ่าน Influencer กันไปแล้ว ซึ่งเป็นการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุค Digital นี้
แล้ว Influencer มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร และเลือกใช้ยังไงจึงจะเหมาะสมกับแบรนด์ของเรา วันนี้เราจะพาทุกคนไปไขคำตอบพร้อม ๆ กัน
Influencer หากแบ่งตามจำนวนผู้ติดตาม (Follower) สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ซึ่งทางแบรนด์จำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพื่อเลือก Influencer ที่ตอบโจทย์ และเข้ากับวัตถุประสงค์ของการทำการตลาดของแบรนด์มากที่สุด
ความแตกต่างของ Influencer ทั้ง 5 ประเภท
1. Nano Influencer
– มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ 1,000 – 10,000 คน
– ราคาไม่สูงมาก ถ้าเทียบกับ Influencer ระดับอื่น
– สามารถให้ Influencer หลายคนสร้างสรรค์ Content ได้พร้อมๆ กันในทีเดียวแบบกระจายวงกว้าง และทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูมีความเป็นจริงมากกว่า
– เป็นที่รู้จักในสังคมขนาดเล็ก ผู้ติดตามให้ความสนใจอย่างเต็มที่
– มีความน่าเชื่อถือจากบุคคลรอบข้างอาทิเช่น เพื่อน, ครอบครัว, คนรู้จัก ฯลฯ ซึ่งจะเข้าถึงผู้โภคได้ในระดับมีใกล้มากขึ้น
2. Micro Influencer
– หรือเรียกอีกชื่อว่า Everyday Influencer
– มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ 10,000 – 50,000 คน
– เข้ากับสินค้าและแบรนด์ได้ง่าย เพราะยังไม่มีตัวตนที่ชัดเจนมาก
– มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีแนวทางการทำคอนเทนต์ที่ชัดเจน มีความสนใจเฉพาะด้าน เช่น ช่องทำอาหาร, เพจรีวิว, พาเที่ยว ฯลฯ
– เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกับวัตถุประสงค์ ทำให้แบรนด์สินค้าหรือผู้ว่าจ้างเลือกที่จะใช้งานได้อย่างมีวัตถุประสงค์มากขึ้น
3. Mid-Tier Influencer
– มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ 50,000 – 100,000 คน
– เป็นระดับที่หลายแบรนด์ต่าง ๆ ต้องการ เพราะสามารถสร้าง Brand Awareness ได้ดีในระดับนึง
– สร้างสรรค์ Content ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ดีกว่า 2 อันดับแรก
– สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามที่ชอบ Influencer คนนั้นมาก ๆ และสร้าง Brand awareness ในกลุ่มคนทั่ว ๆ ไปได้ในเวลาเดียวกัน
– เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีงบประมาณและต้องการคุณภาพหรือความเป็นมืออาชีพ
4. Macro Influencer
– มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 คน
– หลาย ๆ คนใน Influencer ประเภทนี้มีอาชีพหลักคือการทำ Content ทำให้มั่นใจได้ว่า content ที่ออกมานั้นมีคุณภาพ และมีความมืออาชีพในการทำงาน
– สามารถสร้าง Brand Awareness ได้ในระดับที่ดีมาก ๆ
– Influencer จะมีความเป็นมืออาชีพในการสร้าง Content และมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น เกี่ยวกับด้านความงาม ด้านท่องเที่ยว ด้านอาหาร ด้านการออกกำลังกาย
– ทำให้เข้าถึงและเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. Mega Influencer
– มักเรียกอีกชื่อว่า “Celebrity”
– มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียตั้งแต่ 1,000,000 คนขึ้นไป ซึ่งถือว่ามากที่สุดในทุกระดับ
– ส่วนใหญ่มักมีคนรู้จักแบบออฟไลน์มาก่อน โดยอาชีพส่วนใหญ่ของระดับนี้ก็มักจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม เป็นนักแสดง ดารา นักกีฬา
– เหมาะสำหรับการสร้าง Brand Awareness แบบวงกว้าง ต้องการเข้าถึงคนจำนวนมากๆ ไม่เจาะจงถึงกลุ่มเป้าหมาย
– เหมาะสำหรับการ PR และทำแคมเปญการตลาด สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับผู้บริโภคสายอื่นได้ด้วยเช่นกัน จากชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือนั้นๆ
ทั้งหมดคือความแตกต่างของ Influencer ทั้ง 5 ประเภท โดยแบ่งตามจำนวนผู้ติดตาม (Follower) ซึ่งในปัจจุบันการทำ Influencer Marketing กลายเป็นรูปแบบการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างการรับรู้ และสร้างยอดขายให้กับหลาย ๆ แบรนด์ได้อย่างมหาศาล